วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2557

การทดลองที่ 2.3 การตรวจวัดคลื่นสัญญาณที่ขาอินพุต-เอาต์พุตของลอจิกเกต


วัตถุประสงค์

           1. ฝึกการต่อวงจรบนแบรดบอร์ด โดยใช้ไอซี 74HCT00 และ 74HCT14
           2. ฝึกการใช้เครื่องกำเนิดสัญญาณเพื่อสร้างรูปคลื่นตามที่โจทย์กำหนด และฝึกการใช้ออสซิลโลสโคปตรวจวัดคลื่นที่สัญญาณ
           3. รู้จักและเข้าใจการทำงานของลอจิกเกตต่างๆ เช่น เกต NOT  เกต NAND
           4. รู้จักและเข้าใจคุณสมบัติของไอซี 74HCT00 และ 74HCT14

รายการอุปกรณ์

            1. แผงต่อวงจร (เบรดบอร์ด) 1 อัน
            2. ไอซี 74HCT00 1 ตัว
            3. ไอซี 74HCT14 1 ตัว
            4. สายไฟสำหรับต่อวงจร 1 ชุด
            5. ออสซิลโลสโคป (สายวัด 2 ช่อง) 1 เครื่อง
            6. เครื่องกำเนิดสัญญาณ 1 เครื่อง
            7. แหล่งจ่ายควบคุมแรงดัน 1 ชุด

ขั้นตอนการทดลอง

            1. ต่อวงจรบนเบรดบอร์ด โดยใช้ไอซี 74HCT00 เพื่อสร้างลอจิกเกต NOT จำนวน 1 ตัว จากลอจิกเกต NAND2 ตัวใดก็ได้ ที่มีอยู่ภายในไอซีดังกล่าว

            2. สร้างคลื่นสัญญาณสี่เหลี่ยมที่มีแอมพลิจูดอยู่ในช่วง 0V ถึง 5V (Vpp=5V, Voffset=2.5V) ความถี่ f=10kHz และมีค่า Duty Cycle = 50% โดยใช้เครื่องกำเนิดสัญญาณ แล้วป้อนที่ขาอินพุตของลอจิกเกต NOT และต่อ Gnd จากเครื่องกำเนิดสัญญาณไปยัง Gnd ของวงจร (กราวนด์ร่วม)


  

            3. ใช้ออสซิลโลสโคปวัดสัญญาณ โดยใช้ช่อง A วัดสัญญาณที่ขาอินพุต ใช้ช่อง B วัดสัญญาณที่ขาเอาต์พุตของลอจิกเกต NOT และให้ต่อ Gnd ของออสซิลโลสโคป ไปยัง Gnd ของวงจร

            4. สังเกตความสัมพันธ์ระหว่างคลื่นสัญญาณอินพุตและเอาต์พุต (ปรับ Time/Div ไปที่ระดับ 10us และ50ns ตามลำดับเพื่อดูรูปคลื่นสัญญาณในแต่ละกรณี) และวัดระดับแรงดันสูงสุดของสัญญาณเอาต์พุตที่ได้ (ให้บันทึกภาพที่ปรากฏบนจอแสดงผลของออสซิลโลสโคปด้วย)

 
  Time / Div = 10 us

   Time / Div  = 50 ns

            5. ต่อวงจรไดโอดเปล่งแสงพร้อมตัวต้านทาน 330Ω หรือ 470Ω ที่ขาเอาต์พุตของลอจิกเกต NOT

            6. ใช้ออสซิลโลสโคปวัดสัญญาณ โดยใช้ช่อง A วัดสัญญาณที่ขาอินพุต ใช้ช่อง B วัดสัญญาณที่ขาเอาต์พุตของลอจิกเกต NOT


            7. สังเกตความแตกต่างเมื่อเปรียบเทียบกับกรณีที่ไม่ได้ต่อวงจรไดโอดเปล่งแสงพร้อมตัวต้านทานที่ขาเอาต์พุต และวัดระดับแรงดันสูงสุดของสัญญาณเอาต์พุตที่ได้ (ให้บันทึกภาพที่ปรากฏบนจอแสดงผลของออสซิลโลสโคปด้วย)

Time / Div = 10 us

 Time / Div  = 50 ns

            8. ยกเลิกการต่อวงจรไดโอดเปล่งแสงพร้อมตัวต้านทานที่ขาเอาต์พุตของลอจิกเกต NOT

            9. เปลี่ยนรูปคลื่นสัญญาณอินพุต โดยสร้างคลื่นสัญญาณรูปสามเหลี่ยม Vpp=5V, Voffset=2.5V, f=1kHz จากเครื่องกำเนิดสัญญาณ เพื่อป้อนให้ขาอินพุตของลอจิกเกต NOT

            10. ใช้ออสซิลโลสโคปวัดสัญญาณ โดยใช้ช่อง A วัดสัญญาณที่ขาอินพุต ใช้ช่อง B วัดสัญญาณที่ขาเอาต์พุตของลอจิกเกต NOT แล้วสังเกตผลที่ได้ (ให้บันทึกภาพที่ปรากฏบนจอแสดงผลของออสซิลโลสโคปด้วย)


            11. วัดระดับแรงดันอินพุตที่ทำให้เกิดจุดตัดของคลื่นสัญญาณจากช่อง A และ B

            12. ยกเลิกการต่อวงจรโดยใช้ไอซี 74HCT00 และให้ต่อวงจรบนเบรดบอร์ด โดยใช้ไอซีเบอร์ 74HCT14 เพื่อสร้างลอจิกเกต NOT จำนวน 1 ตัว (เลือกลอจิกเกต NOT ตัวใดก็ได้ที่มีอยู่ภายในไอซีดังกล่าว)


            13. สร้างคลื่นสัญญาณรูปสามเหลี่ยม Vpp=5V, Voffset=2.5V, f=1kHz จากเครื่องกำเนิดสัญญาณเพื่อป้อนให้ขาอินพุตของลอจิกเกต NOT

            14. ใช้ออสซิลโลสโคปวัดสัญญาณ โดยใช้ช่อง A วัดสัญญาณที่ขาอินพุต ใช้ช่อง B วัดสัญญาณที่ขาเอาต์พุตของลอจิกเกต NOT แล้วสังเกตผลที่ได้ (ให้บันทึกภาพที่ปรากฏบนจอแสดงผลของออสซิลโลสโคปด้วย)


            15. วัดระดับแรงดันอินพุตที่ทำให้เกิดจุดตัดของคลื่นสัญญาณจากช่อง A และ B

ผลการทดลอง

       รูปออสซิลโลสโคปวัดสัญญาณ(ปรับ Time/Div ไปที่ระดับ 10us และ50ns ตามลำดับ) จากเครื่องกำเนิดสัญญาณที่ป้อนสัญญาณสี่เหลี่ยมที่มีแอมพลิจูดอยู่ในช่วง 0V ถึง 5V (Vpp=5V, Voffset=2.5V) ความถี่ f=10kHz และมีค่า Duty Cycle = 50%  ให้ขาอินพุตของลอจิกเกต NOT  ของไอซีเบอร์ 74HCT00 โดยกราฟอินพุต(A) คือสีเหลือง กราฟเอาท์พุต(B) คือสีฟ้า

                            

        1 สัญญาณที่ได้จากวงจรลอจิกเกต NOT จากเกต NAND ของไอซี 74HCT00
         
                             



    2  สัญญาณที่ได้จากวงจรลอจิกเกต NOT จากเกต NAND ของไอซี 74HCT00 โดยมีไดโอดเปล่งแสงพร้อมตัวต้านทาน 330Ω ต่อเข้าที่ขาเอาต์พุตของลอจิกเกต


     รูปออสซิลโลสโคปวัดสัญญาณ จากเครื่องกำเนิดสัญญาณที่ป้อนสัญญาณรูปสามเหลี่ยม Vpp=5V, Voffset=2.5V, f=1kHz ให้ขาอินพุตของลอจิกเกต NOT  ของไอซีเบอร์ 74HCT00 โดยกราฟอินพุต(A) คือสีเหลือง กราฟเอาท์พุต(B) คือสีฟ้า และจากภาพที่ปรากฎบนหน้าจอแสดงผลสามารถบอกจุดตัดของสัญญาณจากช่อง A และ B ได้ดังนี้

    จุดที่ 1
                     2.8 / 5 * 2  = 1.12
    จุดที่ 2
                     4 / 5 * 2 = 1.6


 
       รูปออสซิลโลสโคปวัดสัญญาณ จากเครื่องกำเนิดสัญญาณที่ป้อนสัญญาณรูปสามเหลี่ยม Vpp=5V, Voffset=2.5V, f=1kHz ให้ขาอินพุตของลอจิกเกต NOT  ของไอซีเบอร์ 74HCT14 โดยกราฟอินพุต(A) คือสีเหลือง กราฟเอาท์พุต(B) คือสีฟ้า และจากภาพที่ปรากฎบนหน้าจอแสดงผลสามารถบอกจุดตัดของสัญญาณจากช่อง A และ B ได้ดังนี้

    จุดที่ 1
                     2.5 / 5 * 2  = 1
    จุดที่ 2
                     4 / 5 * 2 = 1.6



คำถามท้ายการทดลอง

            1. ในกรณีที่สร้างลอจิกเกต NOT จากเกต NAND ของไอซี 74HCT00 และป้อนสัญญาณอินพุตเป็นรูปคลื่นสี่เหลี่ยมตามที่ได้ทดลองไป จงระบุระยะเวลาในการเปลี่ยนแปลงของคลื่นสัญญาณที่ขาเอาต์พุตของลอจิกเกต NOT จาก HIGH เป็น LOW (ขอบขาลง) และจาก LOW เป็น HIGH (ขอบขาขึ้น) ตามลำดับ เมื่อวัดด้วยออสซิลโลสโคป
=       ระยะเวลาในการเปลี่ยนแปลงของคลื่นสัญญาณที่ขาเอาทต์พุตจาก HIGH เป็น LOW (ขอบขาลง) และจาก LOW เป็น HIGH (ขอบขาขึ้น) เท่ากับ 50 us

            2. ในกรณีที่สร้างลอจิกเกต NOT จากเกต NAND ของไอซี 74HCT00 และป้อนสัญญาณอินพุตเป็นรูปคลื่นสามเหลี่ยมตามที่ได้ทดลองไป จงอธิบายว่า จะได้คลื่นสัญญาณที่ขาเอาต์พุตของลอจิกเกต
NOT เป็นรูปคลื่นแบบใด และให้ระบุระดับแรงดันอินพุตที่ทำให้เกิดจุดตัดของคลื่นสัญญาณจากช่อง A และ B (มีอยู่สองจุดตัด ในช่วงขาขึ้นและขาลงของสัญญาณอินพุต)
=       เป็นรูปคลื่นแบบสี่เหลี่ยม invert กับสัญญาณที่ขาอินพุต และมีแรงดันอินพุตที่ทำให้เกิดจุดตัดในช่วงขาขึ้นและขาลงเท่ากับ  1.6 และ 1.12 ตามลำดับ

            3. ในกรณีที่ใช้ลอจิกเกต NOT ภายในไอซี 74HCT14 และป้อนสัญญาณอินพุตเป็นรูปคลื่นสามเหลี่ยมจงอธิบายว่า จะได้คลื่นสัญญาณที่ขาเอาต์พุตของลอจิกเกต NOT เป็นรูปคลื่นแบบใด และให้ระบุระดับแรงดันอินพุตที่ทำให้เกิดจุดตัดของคลื่นสัญญาณจากช่อง A และ B (มีอยู่สองจุดตัด ในช่วงขาขึ้นและขาลงของสัญญาณอินพุต)
=       เป็นรูปคลื่นแบบสี่เหลี่ยม invert กับสัญญาณที่ขาอินพุต และมีแรงดันอินพุตที่ทำให้เกิดจุดตัดในช่วงขาขึ้นและขาลงเท่ากับ  1.6 และ 1 ตามลำดับ

            4. อธิบายความหมายของคำว่า V+ และ V- ของ Schmitt-Trigger Inverter และถ้าอ้างอิงตามดาต้าชีทของไอซี 74HCT14 (ดาวน์โหลดได้จากอินเทอร์เน็ต) จงระบุค่า V+ และ V- ตามลำดับสำหรับ
VCC=+4.5V
=       V+ คือ แรงดันเทียบขาขึ้น positive-going threshold voltage และ V- คือ แรงดันเทียบขาลง  negative-going threshold voltage โดย  V+ และ V- มีค่าเท่ากับ 1.41 และ 0.85 ตามลำดับ

*** อ้างอิดาต้าชีทของไอซี 74HCT14  จาก  www.nxp.com/documents/data_sheet/74HC_HCT14.pdf

            5. จงระบุค่าโดยประมาณสำหรับ V+ และ V- สำหรับไอซี 74HCT14 ที่สามารถดูได้จากผลการทดลอง(ใช้สำหรับ VCC=+5V)
=       V+ มีค่าโดยประมาณเท่ากับ 1.6  และ  V- มีค่าโดยประมาณเท่ากับ 1


การทดลองที่ 2.1 การสร้างลอจิกเกต NOT จาก NAND


วัตถุประสงค์


           1. ฝึกการตรวจดูลอจิก โดยการไล่ไปตามวงจร
           2. ฝึกการต่อวงจรโดยใช้ไอซี 74HCT00



รายการอุปกรณ์

           1.  แผงต่อวงจร (เบรดบอร์ด) 1 อัน
           2.  ไอซี 74HCT00 1 ตัว
           3.  ปุ่มกดแบบสี่ขา 1 ตัว
           4.  ไดโอดเปล่งแสงขนาด 5 มม. 1 ตัว
           5.  ตัวต้านทาน 330Ω หรือ 470Ω 1 ตัว
           6.  ตัวต้านทาน 10kΩ 1 ตัว
           7.  สายไฟสำหรับต่อวงจร 1 ชุด
           8.  มัลติมิเตอร์ 1 เครื่อง
           9.  แหล่งจ่ายควบคุมแรงดัน 1 ชุด

ขั้นตอนการทดลอง

           1. ต่อวงจรบนเบรดบอร์ด โดยใช้ไอซี 74HCT00 เพื่อสร้างลอจิกเกต NOT จำนวน 1 ตัว จากลอจิกเกต
NAND2 ตัวใดก็ได้ ที่มีอยู่ภายในไอซีดังกล่าว (ในการต่อวงจรโดยใช้ไอซีตัวถังแบบ DIL/DIP ให้
ระมัดระวังในการเสียบขาของอุปกรณ์ลงบนเบรดบอร์ด หรือการดึงออก เพื่อหลีกเลี่ยงการชำรุด
เสียหายของขาไอซี)

           2. ต่อวงจรปุ่มกดแบบสี่ขาพร้อมตัวต้านทาน 10kΩ แบบ Pull-Up เพื่อสร้างสัญญาณอินพุตที่ขาอินพุตของลอจิกเกต NOT

           3. ต่อวงจรไดโอดเปล่งแสงพร้อมตัวต้านทาน 330Ω หรือ 470Ω แล้วนำไปต่อที่ขาเอาต์พุตของลอจิกเกต NOT เพื่อแสดงสถานะ “ติด/ดับ” ในสถานะ “ติด” (เอาต์พุต HIGH) ขาเอาต์พุตจะ “จ่ายกระแส” ผ่านตัวไดโอดเปล่งแสงและตัวต้านทาน ไปยัง Gnd ของวงจร และในสถานะ “ดับ” (เอาต์พุต LOW)จะไม่มีการจ่ายกระแส

           4. ตรวจสอบความถูกต้องของวงจรบนเบรดบอร์ด แล้วจึงป้อนแรงดันไฟเลี้ยง VCC = +5V และ Gnd จากแหล่งจ่ายควบคุมแรงดัน ให้วงจรบนเบรดบอร์ด

           5. เมื่อยังไม่กดปุ่ม ให้สังเกตสถานะ “ติด/ดับ” ของไดโอดเปล่งแสง วัดแรงดันที่ขาอินพุตและขาเอาต์พุตเทียบกับ Gnd ของวงจรตามลำดับ โดยใช้มัลติมิเตอร์ แล้วจดบันทึกผลลงในตารางที่ 2.1.1

           6. เมื่อกดปุ่มค้างไว้ ให้สังเกตสถานะ “ติด/ดับ” ของไดโอดเปล่งแสง วัดแรงดันที่ขาอินพุตและขา
เอาต์พุตเทียบกับ Gnd ของวงจรตามลำดับ โดยใช้มัลติมิเตอร์ แล้วจดบันทึกผลลงในตารางที่ 2.1.1

           7. เมื่อไม่ต่อขาอินพุตของลอจิกเกต (ไม่ต่อสัญญาณจากวงจรปุ่มกดเข้าที่ขาอินพุต) ให้สังเกตสถานะ “ติด/ดับ” ของไดโอดเปล่งแสง วัดแรงดันที่ขาอินพุตและขาเอาต์พุตเทียบกับ Gnd ของวงจร
ตามลำดับ โดยใช้มัลติมิเตอร์ แล้วจดบันทึกผลลงในตารางที่ 2.1.1

           8. ทดลองต่อวงจรโดยใช้ไอซี 74HCT00 เพื่อสร้างลอจิกเกต NOT จำนวน 1 ตัว จาก NAND ภายในแต่ให้ใช้แรงดันไฟเลี้ยง VCC = +4.5V จากนั้นป้อนอินพุตของลอจิกเกต NOT เป็นลอจิก LOW และ HIGH ตามลำดับ (โดยการนำขาอินพุตไปต่อกับ GND และ VCC ในแต่ละกรณี) จากนั้นให้วัดแรงดันที่ขาเอาต์พุตของลอจิกเกต NOT เทียบกับ GND ของวงจร ในแต่ละกรณี จดบันทึกผลที่ได้และ
เปรียบเทียบกับพารามิเตอร์ VOL และ VOH ที่ได้จากดาต้าชีทของไอซี เพื่อดูว่าสอดคล้องกันหรือไม่

ภาพการทดลอง

       
        ต่อวงจรแบบ NOT

   
   การวัดแรงดันที่ขาอินพุต

 
    การวัดแรงดันที่ขาเอาต์พุต


แรงดันที่ขาอินพุต
แรงดันที่ขาเอาต์พุต
สถานะของไดโอดเปล่งแสง
ยังไม่กดปุ่ม
4.9 V
0.6 mV
ดับ
กดปุ่มค้างไว้
1.1 mV
4.53 V
ติด
ไม่ต่ออินพุต
2.255 V
2.07 V
ติด
ตารางที่ 2.1.1


คำถามท้ายการทดลอง

           1. จากผลการทดลองที่ได้ ความสัมพันธ์ระหว่างอินพุตและเอาต์พุตของลอจิกเกตเป็นไปตามตารางค่าความจริงของเกต NOT หรือไม่ จงอธิบาย
=       เป็นไปตามตารางค่าความจริง เนื่องจากเมื่อกดปุ่มค้างไว้ บริเวณขาอินพุตมีlogic เป็น ขาเอาต์พุตมี logic เป็น 1เมื่อยังไม่กดปุ่มบริเวณขาอินพุตมี logicเป็น ขาเอาต์พุตมี logic เป็น 0

A
0
1
1
0

ตารางค่าความจริงของเกต NOT

           2. ถ้าใช้แรงดันไฟเลี้ยง VCC=4.5V หรือ VCC=5.5V อย่างใดอย่างหนึ่ง เมื่อกดปุ่ม/ไม่กดปุ่ม เพื่อสร้างสัญญาณอินพุตให้ลอจิกเกต NOT (สร้างได้จาก 74HCT00) แรงดันที่วัดได้ที่ขาเอาต์พุตในสถานะ
LOW และ HIGH จะได้เท่ากับ …………………….. โวลต์ และ ………………. โวลต์ ตามลำดับ (เมื่อไม่มีการจ่ายกระแสใดๆ ที่ขาเอาต์พุตของลอจิกเกต NOT) และแรงดันทั้งสองค่านี้ จะสอดคล้องกับ
พารามิเตอร์ทางไฟฟ้า VOL และ VOH ที่อ้างอิงจากดาต้าชีท (Data Sheet) ของไอซี 74HCT00
หรือไม่ จงอธิบาย

           3. ในกรณีที่ไม่ต่อขาอินพุตของลอจิกเกต NOT (ไม่ป้อนสัญญาณอินพุตใดๆ) จะให้ผลเหมือนหรือแตกต่างกันย่างไร เมื่อเปรียบเทียบกับกรณีที่มีวงจรปุ่มกดสร้างสัญญาณให้ที่ขาอินพุตของลอจิกเกตจงอธิบาย
=      เหมือนกันคือ สถานะของไดโอดเปล่งแสง มีสถานะคือไฟติด แต่ต่างกันในเรื่องของการวัดค่าแรงดันที่ขาของอินพุตและเอาต์พุต โดยกรณีที่กดปุ่มค้างไว้ แรงดันที่ขาอินพุตมีค่าน้อยมากจนเข้าใกล้ 0 ส่วนแรงดันที่ขาเอาต์พุต มีค่าเป็น4.53 V และในกรณีที่ไม่ต่ออินพุตแรงดันที่ขาอินพุตและเอาต์พุต มีค่าประมาน 2 V ดังตาราง

      
แรงดันที่ขาอินพุต
แรงดันที่ขาเอาต์พุต
สถานะของไดโอดเปล่งแสง
กดปุ่มค้างไว้
1.1 mV
4.53 V
ติด
ไม่ต่ออินพุต
2.255 V
2.07 V
ติด



วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557

การทดลองที่ 1.2 การต่อวงจรโดยใช้ไอซีควบคุมแรงดันคงที่


วัตถุประสงค์ของการทดลอง

           1. ฝึกทักษะการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ทางอิเล็กโทรนิกส์ เช่น การต่อวงจรอิเล็กทรอนิกส์บนเบรดบอร์ด , การใช้มัลติมิเตอร์ในการวัดกระแสและแรงดันที่ตกคร่อมของอุปกรณ์ในวงจร
           2. รู้จักและเข้าใจคุณสมบัติและการทำงานต่างๆ ของไอซีควบคุมแรงดัน 7805 และไดโอด 1N4001

รายการอุปกรณ์

           1. แผงต่อวงจร ( breadboard )              1   อัน
           2. ไอซีควบคุมแรงดัน 7805                  1 ตัว
           3. ตัวเก็บประจุแบบมีขั้ว 100uF             1 ตัว
           4. ตัวเก็บประจุแบบมีขั้ว 10uF               1 ตัว
           5. ตัวเก็บประจุแบบไม่มีขั้ว 100nF         1 ตัว
           6. ตัวต้านทาน 330Ω หรือ 470Ω           1 ตัว
           7. ไดโอดเปล่งแสง ขนาด 5 มม.           1 ตัว
           8. ไดโอด 1N4001                             1 ตัว
           9. สายไฟสำหรับต่อวงจร                      1 ชุด
          10. มัลติมิเตอร์                                   1 เครื่อง


ขั้นตอนการทดลอง

          1. ต่อวงจรบนเบรดบอร์ด ตามผังวงจรในรูปที่ 1.2.3



Schematic
Breadboard



          2. ใช้แหล่งจ่ายป้อนแรงดันคงที่ 6V ถึง 12V (เพิ่มขึ้นทีละ 1V) ที่ตำแหน่ง JP1 เป็นแรงดันสำหรับ Vin

          3. วัดแรงดันที่ขาอินพุต (IN) และขาเอาต์พุต (OUT) ของไอซี 7805 เทียบกับขา GND รวมทั้งจุด Vin และ Vout ของวงจร โดยใช้มัลติมิเตอร์ (โวลต์มิเตอร์) แล้วจดบันทึกค่าที่ได้ลงในตารางที่ 1.2.1


แรงดันจาก
แหล่งจ่าย
แรงดัน
ที่จุด Vin
แรงดันที่ขา IN
ของไอซี 7805
แรงดันที่ขา OUT
ของไอซี 7805
แรงดัน
ที่จุด Vout
6V
6.3 v
5.62 v
4.11 v
4.11 v
7V
7.2 v
6.34 v
4.97 v
4.98 v
8V
7.83 v
7.09 v
5.02 v
5.02 v
9V
8.98 v
8.2 v
5.05 v
5.05 v
10V
10.06 v
9.29 v
5.05 v
5.05 v
11V
10.99 v
10.24 v
5.06 v
5.06 v
12V
12.11 v
11.34 v
5.05 v
5.06 v
                                                                      ตารางที่  1.2.1

          4. วัดกระแสทีไหลผ่าน LED1 แล้วจดบันทึก
                                                          
แรงดันจาก
แหล่งจ่าย
กระแสที่ไหล
ผ่าน LED
6V
8 mA
7V
10 mA
8V
11 mA
9V
11 mA
10V
11 mA
11V
11 mA
12V
11 mA

          5. ทดลองป้อนแรงดันไฟเลี้ยง (9V) กลับขั้ว (กลับทิศทางขั้วบวกขั้วลบ) ให้วงจร แล้วสังเกตผล

ตารางผลการทดลอง

แรงดันจากแหล่งจ่าย
แรงดันที่จุด Vin
แรงดันที่ขา INของไอซี 7805
แรงดันที่ขา OUTของไอซี 7805
แรงดันที่จุด Vout
กระแสที่ไหลผ่านLED
6V
6.3 v
5.62 v
4.11 v
4.11 v
8 mA
7V
7.2 v
6.34 v
4.97 v
4.98 v
10 mA
8V
7.83 v
7.09 v
5.02 v
5.02 v
11 mA
9V
8.98 v
8.2 v
5.05 v
5.05 v
11 mA
10V
10.06 v
9.29 v
5.05 v
5.05 v
11 mA
11V
10.99 v
10.24 v
5.06 v
5.06 v
11 mA
12V
12.11 v
11.34 v
5.05 v
5.06 v
11 mA

คำถามท้ายการทดลอง

          1. จากการทดลอง ถ้าป้อนแรงดันอินพุตในช่วง 6V ถึง 12V ที่จุด Vin แรงดันที่จุด Vout ของวงจร
จะคงที่เท่ากับ 5V หรือไม่ จงอธิบายโดยวิเคราะห์ตามผลการทดลองที่ได้  
=    เนื่องจากไอซีควบคุมแรงดัน 7805 จะรับแรงดันอินพุตในช่วง 7-12 V และทำให้แรงดันที่จุด Vout มีค่าคงที่เท่ากับ 5 V เพราะฉะนั้นหากเราป้อนแรงดันอินพุตในช่วง 6-12 V แรงดันที่จุด Vout  ของวงจรจะไม่คงที่เท่ากับ  5 V

          2. ถ้าป้อนแรงดันอินพุตในช่วง 6V ถึง 12V ที่จุด Vin จะได้ผลต่างระหว่างแรงดันที่จุด Vout ของวงจรและแรงดันขา IN ของไอซี 7805 อยู่ในช่วงใด มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหรือไม่ และแรงดันตกคร่อมที่ตัวไดโอด 1N4001 จะได้ประมาณกี่โวลต์    
=    จะได้ผลต่างระหว่างแรงดันที่จุด Vout ของวงจรและแรงดันขา IN ของไอซี 7805 อยู่ในช่วง 1- 6 V โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเพิ่ม Vin แรงดันตกคร่อมที่ตัวไดโอด 1N4001 ประมาณ 0.76 V

          3. สำหรับวงจรในการทดลอง ถ้าจะให้ได้แรงดันคงที่ 5V สำหรับ Vout จะต้องป้อนแรงดันอินพุตที่ Vin อย่างน้อยกี่โวลต์    
=    อย่างน้อย 7 V

          4. ถ้าป้อนแรงดันอินพุต 9V กลับขั้ว (กลับทิศทางขั้วบวกขั้วลบ) ให้ Vin และ Gnd จะทำให้
ไดโอดเปล่งแสง “สว่าง” หรือไม่     
=    ไดโอดเปล่งแสงไม่สว่าง

          5. จากการทดลอง ถ้า LED1 ในวงจรให้แสงสว่าง จะมีกระแสไหลผ่าน LED1 ประมาณกี่มิลลิแอมป์
=    10 มิลลิแอมป์